เอกสารแจ้งการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy notice)

บริษัท ซมโปะ ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ("บริษัท") มีความประสงค์เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย (รวมเรียกว่า "ประมวลผล") ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่ระบุในเอกสารฉบับนี้ ทั้งก่อนและหลังจากวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ("PDPA") บังคับใช้ เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายดังล่าว บริษัทจึงขอแจ้งให้ท่านในฐานะลูกค้าและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งปัจจุบันและอดีต ให้ทราบถึงรายละเอียดของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อันมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • 1. นิยาม
    • "ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม
    • "ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว" หมายถืง ข้อมูลส่วนบุคคลที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จำแนกให้เป็นข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนตามมาตรา 26 เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความพึงพอใจทางเพศ ศาสนา ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ความพิการ ข้อมูลชีวภาพ เป็นต้น
      ในนโยบายฉบับนี้จะรวมเรียกข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวว่า "ข้อมูลส่วนบุคคล"
    • 1.3 "คปภ." หมายถึง สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
  • 2. แหล่งที่มาและข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวม
    • 2.1 ผู้มุ่งหวัง/ผู้เอาประกันภัย/ผู้รับประโยชน์/สมาชิกครอบครัว/คู่สมรส ("ลูกค้าและบุคคลที่เกี่ยวข้อง")

      บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในเอกสารฉบับนี้ ด้วยทั้งวิธีทางตรงและทางอ้อม โดยวิธีการเก็บรวบรวมทางตรงได้แก่ จากเจ้าของข้อมูล ช่องทางการขาย ช่องทางการร้องเรียนหรือเรียกร้องค่าสินไหม หรือกิจกรรมอื่นๆของบริษัทที่มีการติดต่อกับเจ้าของข้อมูลโดยตรง และวิธีการเก็บรวบรวมทางอ้อม ได้แก่ บุคคลที่ท่านมอบหมาย/มอบอำนาจ ผู้แทนตามกฎหมาย ช่องทางการขาย คู่ค้า เจ้าหน้าที่รัฐ สมาคมที่ท่านเป็นสมาชิก สมาคมประกันวินาศภัยไทย ("TGIA") บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ("RAVP") พื้นที่สาธารณะ เครือข่ายสังคมออนไลน์ สถานพยาบาล บริษัทประกันอื่นๆ และช่องทางอื่นใดอันไม่เป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวหรือ PDPA โดยข้อมูลที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวมเพื่อการประมวลผลมีดังต่อไปนี้ แต่มิได้จำกัดเพียง

      ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจะทำการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย
      ข้อมูลส่วนตัว ชื่อ-นามสกุล อายุ วัน/เดือน/ปีเกิด เพศ สถานะสมรส เลขประจำตัวประชาชน เลขประจำตัวหนังสือเดินทาง อาชีพ ตำแหน่ง เลขประจำตัวใบขับขี่ สัญชาติ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี หมายเลขประตัวคนต่างด้าว หมายเลขใบอนุญาตการทำงานของคนต่างด้าว เลขที่ประจำตัวข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่รัฐ ลายมือชื่อ ภาพ
      ข้อมูลช่องทางการติดต่อ ที่อยู่ สถานที่ทำงาน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ ID Line
      ข้อมูลทางการเงิน เลขและชื่อบัญชีธนาคาร หมายเลขบัตรเครดิต/เดบิต รายได้ ประวัติทางการเงิน ข้อมูลเงินกู้ ข้อมูลการลงทุน ข้อมูลการล้มละลาย ข้อมูลการปฏิบัติตามมาตรการภาษีต่างชาติ
      ข้อมูลการทำธุรกรรมประกันภัย ประวัติการซื้อประกันภัย ประวัติการชดเชยค่าสินไหม สินทรัพย์เอาประกันภัย ประวัติการปฏิเสธการรับประกันภัย หมายเลขกรมธรรม์
      ข้อมูลอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ IP address, MAC address, Cookie ID, Serial number
      ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เชื้อชาติ ศาสนา ประวัติความทุพลภาพ ประวัติสุขภาพ ประวัติการรักษา ประวัติการบาดเจ็บ/อุบัติเหตุ ประวัติการใช้สารเสพย์ติด สำเนารายงานประจำวันตำรวจ ความเห็นพนักงานสอบสวน ใบรับรองแพทย์/ผลการรักษาพยาบาล ลายพิมพ์นิ้วมือ ภาพถ่ายหรือวีดิโอคลิปของการบาดเจ็บ/อุบัติเหตุ ประวัติการกระทำความผิด ประวัติอาชญากรรม ประวัติการฟอกเงินหรือสนับสนุนการก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
      ข้อมูลอื่น ๆ เสียง รูปนิ่ง รูปเคลื่อนไหว และข้อมูลอื่นๆ ที่เก็บรวบรวมและใช้ เพื่อการประกอบการประมวลผลสำหรับการรับประกันภัย การพิจารณาค่าสินไหม กิจกรรมประกันภัยอื่นๆ ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล ทะเบียนรถยนต์/จักรยานยนต์ เลขตัวถัง เลขเครื่องยนต์ สถานที่ตั้งวัตถุเอาประกันภัย โฉนด สำเนาเล่มทะเบียนรถ เลขคำขอเอาประกัน

      ทั้งนี้การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับประเภทผลิตภัณฑ์/บริการประกันภัยที่ท่านได้ซื้อ/รับจากบริษัท หรือทำธุรธรรม นิติกรรมสัญญากับบริษัท และบริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นเพื่อการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในเอกสารฉบับนี้

      การให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นใด อาทิ ผู้มุ่งหวัง ผู้รับประโยชน์ สมาชิกครอบครัว เป็นต้น ต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน นอกจากนี้ท่านมีหน้าที่ต้องแจ้งรายละเอียดตามเอกสารฉบับนี้ต่อบุคคลเหล่านั้น และ/หรือขอรับความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้น (หากกฎหมายกำหนด) และปฏิบัติตาม PDPA ด้วยตัวท่านเอง ก่อนเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเหล่านั้นแก่บริษัท

      ในกรณีที่ท่านเป็นผู้ถือกรมธรรม์ในกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่ม ท่านจำเป็นต้องแจ้งรายละเอียดในเอกสารฉบับนี้แก่ผู้เอาประกันภัยภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มก่อนเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเหล่านั้นแก่บริษัท ยิ่งไปกว่านั้นท่านต้องจัดทำหนังสือรับรองสำหรับกรมธรรม์กลุ่ม (Representation and Warranty for Group Policy) และจัดเก็บแบบแสดงความยินยอมแก่บริษัท (หากบริษัทและ/หรือกฎหมายกำหนด) ตลอดจนเก็บรักษาแบบแสดงความยินยอมให้บริษัทด้วยตัวท่าน เพื่อให้บริษัทสามารถขอตรวจสอบได้เมื่อต้องการ

      อย่างไรก็ดีบริษัทขอเรียนให้ท่านทราบว่า หากท่านไม่สามารถให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นตามที่บริษัทได้แจ้งไว้ได้อย่างครบถ้วน ย่อมส่งผลต่อการพิจารณาการทำนิติกรรมระหว่างท่านและบริษัท การทำสัญญาประกันภัย การให้บริการที่เหมาะสม การปฏิบัติตามกฎหมายโดยตัวท่านเองหรือโดยบริษัท

  • 3. วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าและบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

    • 3.1 พิจารณาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสม
    • 3.2 อำนวยความสะดวกในการกรอกคำขอเอาประกันภัยและจัดเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง
    • 3.3 เพื่อการพิสูจน์ตัวตนตามกระบวนการทําความรู้จักลูกค้า (Know Your Customer "KYC") และ การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริง (Customer Due Diligence "CDD")
    • 3.4 พิจารณารับประกันภัย เมื่อท่านได้ส่งคำขอเอาประกันภัยและเอกสารที่เกี่ยวข้อง
    • 3.5 จัดทำสัญญาประกันภัยร่วม ประกันภัยต่อ และประกันภัยต่อช่วง
    • 3.6 ปฏิบัติตามสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาประกันภัย อาทิ กระบวนการเรียกร้องค่าสินไหม เป็นต้น
    • 3.7 จัดทำสถิติ เพื่อประโยชน์ในการคำนวณอัตราเบี้ยประกันภัยให้เหมาะสมกับความเสี่ยง/ตรวจสอบและป้องกันการทุจริตด้านประกันภัย
    • 3.8 ดำเนินธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสัญญาประกันภัย
    • 3.9 แจ้งต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัย และ/หรือเสนอผลิตภัณฑ์/บริการ รวมถึงโปรโมชั่นที่เหมือนหรือคล้ายกับประเภทผลิตภัณฑ์ที่ท่านกำลังใช้
    • 3.10 แจ้งโปรโมชั่น สิทธิพิเศษ ทำการตลาดแบบตรง และ/หรือเสนอขายแบบต่อเนื่อง/ต่อยอด (cross/up selling) ตามที่กฎหมายกำหนด และ/หรือทำแบบสำรวจเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท (อื่นๆ เพื่อการทำการตลาด)
    • 3.11 ดำเนินกระบวนการทางกฎหมาย ในกรณีที่มีความรับผิดต่อบุคคลภายนอก หรือรับช่วงสิทธิเรียกร้อง
    • 3.12 บริหารข้อมูลภายในบริษัท เช่น จัดทำฐานข้อมูล ปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตาม PDPA
    • 3.13 รักษาความสัมพันธ์ เช่น การติดต่อ การจัดการคำร้องเรียน การสำรวจความพึงพอใจ เป็นต้น
    • 3.14 แบ่งปันแก่บริษัทในเครือ และ/หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มบริษัท Sompo ตัวแทน คู่สัญญา ผู้รับประกันภัยต่อ สมาคม หรือผู้ให้บริการอื่นๆ เพื่อการดำเนินงานของบริษัท การติดต่อ การชำระเงิน การจัดทำฐานข้อมูล
    • 3.15 ประมวลผลตามที่ คปภ. กำหนดในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ คปภ. ในเว็บไซต์ www.oic.or.th
    • 3.16 ให้ความร่วมมือหรือปฏิบัติตามกฎหมาย หรือคำสั่งของเจ้าหน้าที่รัฐ หรือสมาคมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันวินาศภัยกำหนด
    • 3.17 กระบวนการอื่นๆ ตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งข้างต้น

    บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลบนฐานทางกฎหมายที่กำหนดใน PDPA ในกรณีไม่มีฐานทางกฎหมายกำหนด บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลบนพื้นฐานของความยินยอม/ความยินยอมโดยชัดแจ้ง

  • 4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลภายนอก เว้นกรณีดังต่อไปนี้

    • 4.1 หน่วยงานกำกับดูแลบริษัท เช่น คปภ. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสรรพากร เป็นต้น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
    • 4.2 สมาคมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันวินาศภัยไทย เช่น TGIA สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อการคำนวณสถิติและให้คำแนะนำที่เกี่ยวข้อง
    • 4.3 ผู้ให้บริการ ซึ่งบริษัทได้มอบหมายให้ดำเนินการแทนบริษัท ได้แก่ ตัวแทน/นายหน้าเสนอขายประกัน บริษัทในเครือ นักคณิตศาสตร์ประกันภัยผู้พิจารณารับประกันภัย ผู้สำรวจภัย ผู้ให้คำแนะนำด้านการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน อู่รถ ผู้พิจารณาสินไหมทดแทน RAVP สถานพยาบาล ผู้ให้บริการทางกฎหมาย ผู้ตรวจสอบบัญชี บริษัทรับประกันภัยต่อ บริษัทประกันภัยร่วม ไปรษณีย์สถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการรับชำระเงินและการจ่ายเงิน และการดำเนินการอ่ืนที่เกี่ยวข้องกับสัญญาประกันภัยและ/หรือการดำเนินงานของบริษัทและ/หรือตามกระบวนการทางกฎหมาย
    • 4.4 บุคคลภายนอกที่ทำธุรกรรมแทน หรือในนามของท่าน หรือบางประเภทธุรกรรมที่ข้อมูลของท่านเป็นส่วนหนึ่งของธุรกรรมนั้น เช่น เปิดเผยต่อ ผู้ถือกรมธรรม์กรณีประกันภัยกลุ่ม เป็นต้น
    • 4.5 บุคคลภายนอกที่มีความสัมพันธ์กับท่านและเกี่ยวข้องกับเงื่อนไขหรือประโยชน์ตามกรมธรรม์ เช่น บริษัทเช่าซื้อ บริษัทเงินกู้ ผู้ให้เช่า ผู้รับประโยชน์ ผู้เอาประกันภัยร่วม
    • 4.6 บุคคลอื่น เมื่อได้รับความยินยอม/ความยินยอมโดยชัดแจ้งให้เปิดเผย หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งเจ้าหน้าที่รัฐ
  • 5. การโอนข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทจะไม่โอนข้อมูลของท่านให้บุคคลอื่นใด เว้นแต่การโอนหรือเปิดเผยนั้นเป็นเพื่อการปฏิบัติตามคำสั่งทางกฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ หรือ บริษัทในเครือทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ผู้ให้บริการของบริษัททั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งประเทศปลายทางเหล่านั้นอาจมีหรือไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยที่เทียบเท่ากับประเทศไทย อย่างไรก็ดีบริษัทจะดำเนินกระบวนการและมาตรการต่างๆ เพื่อให้เจ้าของข้อมูลสามารถมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลได้ และผู้รับข้อมูลต้องดำเนินมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสม ตลอดจนปฎิบัติมาตรการตามที่กฎหมายกำหนด

    บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน (หากจำเป็นตามกฎหมาย) ก่อนการโอนข้อมูลส่วนบุคคล เว้นการโอนนั้นเป็นเพื่อการปฏิบัติตามคำสั่งทางกฎหมายหรือเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ หรือเป็นไปตามฐานทางกฎหมาย

  • 6. ระยะเวลาการจัดเก็บ

    บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับนับจากวันที่ได้รับ ด้วยวิธีการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ลอกเลียน แก้ไข โอน ลบ ทำลาย หรือภัยอื่นๆ ซึ่งปราศจากอำนาจและ/หรือเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย ตลอดระยะเวลาการเก็บรักษาของบริษัท รวมถึงข้อมูลที่มีการทำให้เป็นปัจจุบัน หรือเพิ่มเติมระหว่างที่มีความสัมพันธ์ ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทอาจยังคงเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาอีก 10 ปี นับจากวันที่ความสัมพันธ์ได้สิ้นสุดลงหรือจากวันที่มีคำตัดสินชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการหรือศาลที่มีเขตอำนาจ เว้นแต่มีกฎหมายกำหนดให้เก็บรักษาสั้นหรือยาวกว่าตามระยะเวลาที่กฎหมายนั้นกำหนด หลังจากนั้นบริษัท โดยฝ่ายงานที่รับผิดชอบจะเป็นผู้ดำเนินการทำให้ข้อมูลนั้นระบุตัวเจ้าของข้อมูลไม่ได้ ลบ หรือ ทำลาย อย่างถาวรทันทีด้วยความปลอดภัย ภายใต้หลักการ "ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีก" ตลอดจนแจ้งแก่ ผู้ได้รับข้อมูลไปให้ดำเนินการตามหลักปฎิบัติเช่นว่านี้

  • 7. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

    ท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 นับแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ดังนี้

    • 7.1 การเข้าถึงข้อมูล : การเข้าถึง หรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง
    • 7.2 การโอนข้อมูล : การขอรับและ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองไปยังบุคคลที่สาม (หากอยู่ในรูปแบบที่ทำได้)
    • 7.3 การแก้ไขข้อมูล : การขอแก้ไข ทำให้เป็นปัจจุบัน ทำให้สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง
    • 7.4 การคัดค้าน : การคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง
    • 7.5 การลบหรือทำลายข้อมูล : การแจ้งลบ ทำลาย ทำให้ระบุเจ้าของข้อมูลไม่ได้อย่างถาวร ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง
    • 7.6 การระงับการประมวลผล : การแจ้งระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองชั่วคราว
    • 7.7 การถอนความยินยอม : การแจ้งถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้ ทั้งนี้การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลต่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลได้เคยให้ความยินยอมไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย ก่อนการถอนความยินยอม
    • 7.8 การร้องเรียน : การเสนอข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานรัฐผู้มีอำนาจy

    ทั้งนี้ การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และหากท่านต้องการใช้สิทธิตามข้อ 7.4 – 7.7 อาจส่งผลกระทบต่อบริษัท ไม่สามารถพิจารณารับประกันภัย พิจารณาค่าสินไหมทดแทน การให้บริการด้านการประกันภัย และ/หรือ การบริการอื่น ๆ แก่ท่าน โดยหากท่านต้องการใช้สิทธิตามที่กล่าวข้างต้น สามารถติดต่อบริษัทหรือขอแบบฟอร์มได้ตามช่องทางการติดต่อหรือเว็บไซต์ของบริษัท โดยก่อนการใช้สิทธิบริษัทจำเป็นต้องพิสูจน์ตัวตนของท่านก่อนพิจารณาคำขอ

  • 8. ข้อสงวนสิทธิ์

    บริษัทสงวนสิทธิ์ความรับผิดในการสูญหายและ/หรือเสียหายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อันเนื่องมาจากการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าโดยจงใจหรือประมาท ความละเลย หรือประมาทที่จะปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ด้วยตัวท่านเอง อาทิ การไม่ออกจากระบบ (log out) การให้ username/password แก่ผู้อื่น เป็นต้น

  • 9. ช่องทางการติดต่อ

    หากท่านมีข้อเสนอแนะหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมไปถึงการใช้สิทธิต่างๆ ตามที่กำหนดไว้ใน PDPA ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้

    บริษัท ซมโปะ ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
    990 อับดุลราฮิมเพลซ ชั้น12, 14 ถนนพระราม4 แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
    เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เบอร์โทรศัพท์ 02-119-3000, Email: DPO@sompo.co.th

  • เอกสารฉบับนี้มีการแก้ไขและมีผลบังคับ ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2565
  • หมายเหตุ:
    1. บริษัทสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง แก้ไข เอกสารแจ้งการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ฉบับนี้ โดยไม่จำต้องแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า โดยบริษัทจะประกาศฉบับปรับปรุงล่าสุด ลงบนเว็บไซต์ https://www.sompo.co.th พร้อมระบุวันที่แก้ไข ซึ่งท่านสามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเองเสมอ และบริษัทจะไม่ทำการแจ้งการแก้ไขดังกล่าวแก่ท่านเป็นรายบุคคล
    2. ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) ได้ที่ เว็บไซต์ https://www.sompo.co.th/home/privacy-center/privacy-policy-1.html

ติดต่อเรา

ที่ตั้งสำนักงานใหญ่
990 อับดุลราฮิมเพลซ ชั้น 12, 14
ถนนพระราม4 แขวงสีลม เขตบางรัก
กรุงเทพมหานคร 10500 ประเทศไทย

ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์
02-119-3000
จันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.30- 17.00น.

บริการช่วยเหลือฉุกเฉินระหว่างเดินทาง
+662-205-7775
ทุกวัน 24 ชั่วโมง

© 2019 SOMPO INSURANCE (THAILAND) PCL. นโยบายความเป็นส่วนตัว